เห็ดเป๋าฮื้อ

1. ธรรมชาติของเห็ดเป๋าฮื้อ มักขึ้นอยู่บนต้นไม้ที่ผุพังแล้ว ลักษณะของดอกเห็ดไม่ค่อยจะเป็นรูปทรงที่แน่นอน แต่มีลักษณะคล้ายเห็ดนางรม เนื่องจากเห็ดเป๋าฮื้อเป็นเห็ดที่อยู่ในสกุลเดียวกันกับเห็ดหอม จึงมีลักษณะภายนอกใกล้เคียงมาก จะต่างกันก็ที่ดอกใหญ่และหายากกว่า สีดอกระยะแรกจะมีสีค่อนข้างคล้ำจนดำเมื่ออายุมากขึ้นจะค่อย ๆ จางลง และเป็นสีน้ำตาลอ่อนเมื่อแก่จัด ตามปกติจะขึ้นได้ดีในฤดูหนาว แต่เนื่องจากเห็ดเป๋าฮื้อมีการปรับตัวต่ออุณหภูมิได้ค่อนข้างสูง ฉะนั้น ในปัจจุบันจึงสามารถที่นะเพาะเห็ดเป๋าฮื้อได้ผลดีทุกฤดูกาล ในทุกภาคของประเทศไทย 2. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อเห็ดเป๋าฮื้อ 1. แสงสว่าง แม้ว่าเห็ดเป๋าฮื้อจะไม่มีคลอโรฟิลล์ จึงไม่จำเป็นต้องใช้แสงสว่างในการปรุงอาหาร แต่แสงสว่างมีส่วนช่วยในการกระตุ้นให้เห็ดออกดอก โดยเฉพาะการเจริญของหมากดอก แต่ถ้าแสงน้อยหรือไม่มีแสงจะกระตุ้นการเจริญของก้านดอก นอกจากนี้ถ้าเห็ดเป๋าฮื้อเจริญในที่มืด หมวดดอกจะมีสีเข้ม แต่ถ้าเห็ดเป๋าฮื้อเจริญเติบโตในแสงสว่าง หมวกดอกจะมีสีจางลง 2. ความชื้น มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของเห็ดเป๋าฮื้อมาก เห็ดพวกนี้ต้องการความชื้นสัมพัทธ์ของอากาศสูงมาก จึงจำเป็นต้องเพาะในโรงเรือนเพาะเห็ด ความชื้นภายในโรงเรียนที่เหมาะสมควรอยู่ระหว่าง 90-95 เปอร์เซ็นต์ ถ้าความชื้นสัมพัทธ์สูงจะทำให้ดอกเห็ดมีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก 3. อุณหภูมิ อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเห็ดเป๋าฮื้อควรอยู่ระหว่าง 25-30 องศาเซลเซียส ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 12 องศาเซลเซียส หรือสูงกว่า 36 องศาเซลเซียส เห็ดจะไม่ออกดอกหรือดอกที่ออกจะมีลักษณะแคระแกรนมีรูปร่างผิดปกติ
3. การผลิตก้อนเชื้อเห็ดเป๋าฮื้อ 1. การผลิตก้อนเชื้อโดยใช้ฟางหมัก ก.นำฟางที่สับเรียบร้อยแล้ว(ยาว 2-8 นิ้ว) มาแช่น้ำหรือรดน้ำให้ทั่ว หลังจากที่ฟางสะเด็ดน้ำแล้ว นำมาผสมกับปุ๋ยวิทยาศาสตร์ตามสูตร โดยหมักเป็นกองสูงแล้วคลุมด้วยพลาสติก หลังจากหมักได้ 3 วัน รอบ ๆ กองฟางจะแห้ง ให้ใช้บัว รดน้ำรอบ ๆ ขอบกองฟางจากนั้นให้พลิกกองปุ๋ยหมัก ตีก้อนปุ้ยให้แตกแล้วนำมาคลุกกับปูนขาว หมักต่ออีก 3 วัน เมื่อครบ 3 วันแล้ว ให้พลิกกองปุ๋ยหมัก และให้หมักต่อเป็นรูปเจดีย์ โดยกองแบบหลวม ๆ เพื่อให้อากาศถ่ายเทให้มากที่สุด ทิ้งไว้ 1 วัน วันรุ่งขึ้นให้ผสมรำข้าง เสร็จแล้วให้บรรจุถุงพลาสติกทนร้อนที่ใช้เพาะเห็ด ควรจัดใส่ถุงให้หมดภายในวันนั้น และควรนำก้อนเชื้อไปนึ่งในหม้อนึ่งลูกทุ่งทันทีเพราะถ้าทิ้งไว้นาน ๆ จะเกิดการเจริญของจุลินทรีย์ต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ยากต่อการกำจัด ซึ่งในภายหลังจะก่อให้เกิดความสูญเสียในขั้นตอนการออกดอกได้ ข. นำฟางเช่นในท่อปูนโดยย่ำให้ฟางจมน้ำ และนุ่น แล้วนำมากองเกลี่ยให้เป็นวงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 เมตร บนพื้นปูน โรยฟางหนาประมาณ 3-4 นิ้ว หว่านปุ๋ยหรือแอมโมเนียซัลเฟต และโรยฟางสลับกันจนหมดฟางและปุ๋ยโดยกำหนดฟาง และปุ๋ย โดยกำหนดฟางและปุ๋ยให้พอดี ปุ๋ยจะกระจายทั่วกองฟาง กองฟางจะอยู่ในลักษณะทรายคว่ำสูงประมาณ 1.2-1.5 เมตร เอาผ้าพลาสติกคลุมให้มิดชิดทิ้งไว้ 3 วัน แล้วให้กลับกองฟางครั้งที่สอง พร้อมกับใส่ปูนขาวแล้วใช้ผ้าพลาสติกคลุมไว้ตามเดิมทิ้งไว้อีก 3 วัน ให้กลับกองฟางใส่รำ แล้วบรรจุลงเพาะเห็ดตามกรรมวิธีการเพาะเห็ดทั่วไปแล้วนำไปนึ่งฆ่าเชื้อด้วยหม้อนึ่งลูกทุ่ง ทิ้งไว้ให้เย็นก่อนใส่เชื้อเห็ดลงไป
สูตรที่ใช้ในการเพาะเห็ดเป๋าฮื้อ 1. การผลิตก้อนเชื้อจากฟางข้าว
สูตร 1 ฟางเส้น(ยาว 4-6 นิ้ว) 100 กิโลกรัม ยูเรีย(แอมโมเนียนซัลเฟต 2 กิโลกรัม) 1 กิโลกรัม ปูนขาว 1 กิโลกรัม ปุ๋ยดับเบิลซุปเปอร์ฟอสเฟต 1 กิโลกรัม รำละเอียด 3 กิโลกรัม
สูตร 2 ฟางเส้น 100 กิโลกรัม ปุ๋ยนา(สูตร 16-20-0 หรือ 18-20-0 หรือ 20-20-0) 2 กิโลกรัม ปูนขาว 1 กิโลกรัม รำละเอียด 3 กิโลกรัม
สูตร 3 ฟางเส้น 100 กิโลกรัม ยูเรีย(คลุกกับฟาง) 2 กิโลกรัม ดีเกลือ(ใส่เมื่อกลับกองครั้งที่ 1 ) 1.2 กิโลกรัม หินปูนหรือปูนขาว 0.5 กิโลกรัม น้ำ(ใส่เมื่อกลับกองครั้งที่ 2 ) 140-170กิโลกรัม
สูตร 4 ฟางเส้น 100 กิโลกรัม ยูเรีย(คลุกกับฟาง) 1 กิโลกรัม ส่งเหล้า(คลุกกับฟาง) 0.5 กิโลกรัม ดีเกลือ 0.2 กิโลกรัม หินปูนหรือปูนขาว 0.5 กิโลกรัม น้ำ 140-170กิโลกรัม
2. การผลิตก้อนเชื้อจากขี้เลื่อย
สูตร ขี้เลื่อยไม้ยางพารา 100 กิโลกรัม รำละเอียด 5-15 กิโลกรัม ข้าวโพดป่น 3-5 กิโลกรัม ดีเกลือ 0.3-0.4 กิโลกรัม น้ำ พอประมาณ กรรมวิธีการผลิตก้อนเชื้อ และการอัดถุงทำเหมือนกรรมวิธีการการผลิตเชื้อทั่วไป ในการใช้รำผสมตามปกติยิ่งมากผลผลิตก็สูงตามไปด้วย แต่อัตราความเสียหายเนื่องจากเชื้ออื่นปะปนก็สูงตามไปด้วย ผู้เพาะเห็ดบางรายอาจใช้รำหรือข้าวโพดป่นอย่างใดอย่างหนึ่ง หรืออาจใช้ทั้งสองอย่างร่วมกันในส่วนผสมขึ้นอยู่กับสภาพของท้องถิ่นและราคาของวัตถุดิบ
3. การผลิตก้อนเชื้อจากซังข้าวโพด ถ้าใช้ละอองซ้งข้าวโพดที่ได้จากการสีข้าวโพด ให้มาผสมกับน้ำจนมีความชื้นเหมาะสม แล้วบรรจุถุงได้เลยไม่ต้องใช้เป็นอาหารเสริม โดยใช้ละอองซังข้าวโพด 100 กิโลกรัม ผสมกับน้ำประมาณ 100 กิโลกรัม แต่ถ้าเป็นซ้งข้าวโพด ให้นำไปป่นด้วยเครื่องบดแกลบ โดยตั้งเครื่องบดให้ออกมาหยาบหน่อย หรือจะใช้เครื่องบดเม็ดข้าวโพดก็ได้แล้วนำมาเพาะเห็ดคล้ายกับขี้เลื่อยไม้ยางพารา แต่ต้องไม่ใส่รำให้ใช้ซังข้าวโพด 100 กิโลกรัม ผสมกับน้ำ 100 กิโลกรัม คลุกให้เข้ากัน แล้วกองเป็นรูปสามเหลี่ยม คลุมด้วยพลาสติกทิ้งไว้ 3 วัน เพื่อให้ซังข้าวโพดนิ่มก่อนแล้วจึงบรรจุถุงพลาสติกทนร้อน และนำไปนึ่งด้วยหม้อนึ่งลูกทุ่ง ทิ้งให้เย็นก่อนใส่เชื้อเห็ดลงไป
4. การบ่มก้อนเชื้อเห็ดเป๋าฮื้อ หลังจากใส่เชื้อเห็ดลงในถุงก้อนเชื้อแล้ว ให้นำถุงก้อนเชื้อไปบ่มในโรงบ่มเชื้อให้เป็นชั้นเดียวในลักษณะตั้งหรืออาจจะวางนอนซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ก็ได้ ระยะในการบ่มเชื้อเห็ดเป๋าฮื้อจะใช้ประมาณ 30-45 วันเชื้อจึงจะเจริญเต็มถุง อุณหภูมิที่เหมาะต่อการบ่มเชื้อประมาณ 28-32 องศาเซลเซียส ถ้าสูงหรือต่ำกว่านี้เชื้อจะเจริญช้า ในขณะที่บ่มเชื้อปัญหาที่สำคัญคือโรดและแมลงศัตรูเห็ดอาจเข้าทำลายก้อนเชื้อได้โดยเฉพาะพวกไรและแมลงบางชนิด ดังนั้น จึงควรฉีดยาป้องกันโรดและแมลงศัตรูเห็ด เช่น เซฟวิน 85 ฯลฯ คลุมทับถุงเชื้อเอาไว้ ถ้าโรงเรือนสะอาดการฉีดยาคลุมทับลงบนถุงเห็ดก็ไม่จำเป็นมากนัก
5. การทำให้เห็ดเกิดดอก
หลังจากที่เชื้อเจริญเต็มถุงแล้ว ในการทำให้เกิด ดอกเห็ด ผู้เพาะเห็ดควรใช้วิธีการปฏิบัติดังต่อไปนี้ 1. การวางก้อนเชื้อนอนแล้วเปิดจุกสำลีให้เห็ดออกตรงคอขวด วิธีการนี้ประหยัดพื้นที่ในการวางก้อนเชื้อ เพราะสามารถวางซ้อนกันได้หลายชั้น หรืออาจจะใช้วิธีมัดเป็นพวงแทนในลักษณะนอนก็ได้วิธีการวางก้อนเชื้อแบบนอนเหมาะสำหรับวัสดุที่ใช้เพาะพวกขี้เลื่อยและซังข้าวโพดแต่วิธีการนี้ไม่สามารถคลุมผิวหน้า(casing) ของถุงเห็ดได้ 2. การวางถุงตั้งจะวางติดกันเป็นแบบหน้ากระดานโดยให้ดอกเห็ดดอกแรกออกมาทางคอขวด แต่ดอกเห็ดจะมีปัญหาหักตรงโคนได้ง่าย หลังจากเก็บดอกเห็ดรุ่นต่อไป ก็คือการคลุมดินหนาประมาณ 1 เซนติเมตร ซึ่งจะช่วยให้ก้อนเชื้อไม่แพงเกินไปและมีความชื้นเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเห็ด ดินที่ใช้ต้องสะอาดและมีลักษณะดังนี้
- ดินที่ปราศจากอินทรีย์วัตถุ เพราะอาจมีจุลินทรีย์เจริญลุกลามลงในถุงได้ โดยให้ขุดลอกผิวดินออกประมาณ 15 ซม. จากนั้นให้ขุดดินที่อยู่ลึกลงไป นำไปใช้คลุมผิวหน้าก้อนเชื้อได้
- ดินร่วนปนทราย เพราะเมื่อรดน้ำจะไม่จับตัวกันเป็นก้อนแข็ง โดยนำดินมาทำให้ละเอียดพอสมควรเสียก่อน
- ไม่เป็นกรดหรือด่างมากเกินไป ก่อนใช้ควรผสมหินปูน 2-3 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักดินแห้งหรือจะใช้ปูนขาวประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ก็ได้
- ดินที่ใช้ต้องปราศจากเชื้อจุลินทรีย์ แมลงและไส้เดือนฝอย ถ้านึ่งฆ่าเชื้อก่อนนำมาใช้ได้ยิ่งดี หลังจากคลุมดินแล้วรดน้ำบนดินพอหมาด ๆ อย่าให้เปียกมากเกินไป (ให้รักษาความชื้นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ) ประมาณ 5-7 วัน เส้นใยจะรวมตัวเป็นตุ่มเห็ดเล็ก ๆ จากนั้นจะขยายใหญ่และเจริญเป็นดอกเห็ดภายใน 3-4 วัน
6. ประโยชน์ของการใช้ดินคลุมก้อนเชื้อเห็ด 1. ดินจะช่วยอมความชื้นไว้ได้ดี ช่วยให้ดอกเห็ดเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นมาใหม่ไม่ฝ่อ 2. ดินจะช่วยยึดฐานดอกไม่ให้เห็ดล้มได้ง่าย และช่วยบังคับไม่ให้ก้านดอกยาวมากเกินไป 3. ช่วยป้องกันไม่ให้จุลินทรีย์ที่อยู่ในอากาศไปทำลายก้อนเชื้อเห็ด 4. การคลุมผิวหน้าดินทำให้ก้อนเชื้อได้รับอากาศน้อยลง จึงทำให้ดอกเห็ดเล็ก ๆ ไม่เจริญและอาหารจะถูกสะสมไว้ในก้อนเชื้อมาก ซึ่งช่วยให้เห็ดเกิดรุ่นต่อไปสมบูรณ์
7. ปัญหาในการเพาะเห็ดเป๋าฮื้อ 1. เส้นใยเดินไม่เต็มถุง เหตุเพราะอุณหภูมิสูงหรือมีเชื้อจุลินทรีย์อื่นเจริญแทรก แก้โดยอาจเพิ่มเวลานึ่งก้อนเชื้ออีกประมาณ ?-1 ชั่วโมง 2. ดอกเห็ดแห้งฝ่อเพราะความชื้นไม่พอ ควรรดน้ำอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน 3. มีหนอนทำลายเชื้อเห็ด เป็นเพราะสำลีอุดจุกพื้นและไม่มีกระดาษหุ้มสำลีไว้ทำให้แมลงวันวางไข่ไว้ 4. ไรทำลายเชื้อเห็ด ควรให้โรงบ่มอยู่ห่างจากวัสดุหมัก 5. เชื้อเห็ดเจริญแล้วหยุดส่วนที่เชื้อไม่เดินจะมีสีคล้ำกว่าปกติ เป็นเพราะวัสดุหมักผสมเปียกเกินไป 6. เชื้อราที่ขึ้นปะปนในก้อนเชื้อเกินทั่วไปไม่แน่นอน เหตุเพราะมดแดงตัวเล็ก ๆ หรือ แมลงกัดบริเวณข้างถุงพร้อมกับนำเชื้อราอื่น ๆ เข้าไป ควรรักษาโรงเรือนให้สะอาดและฉีดยาฆ่าแมลงป้องกัน